Social Link
พุทธศาสนา ศาสนาแห่งปัญญา

      ในห้วงเวลาหลังจากเพิ่งผ่านพ้นวันวิสาขบูชา วันสำคัญของโลก มาเพียงไม่ถึงสัปดาห์

ก็มีข่าวคราวอื้อฉาวที่ก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมและสั่นคลอนต่อศรัทธาของพุทธศาสนิกชน(บางกลุ่ม) ซึ่งเป็นที่ทราบกันอย่างกว้างขวางและแพร่หลาย 

แน่นอนว่า ในสถานการณ์ดังกล่าวนี้ ย่อมกระทบต่อความเชื่อมั่นและความศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มคนที่มิได้เข้าใจ ในหลักสิกขา และหลักปฏิบัติทางพระพุทธศาสนาอย่างถ่องแท้ และลึกซึ้ง

ถึงขนาดมีวลี หรือ ถ้อยคำ ที่ปรากฎอยู่มากมายในทุกแพลตฟอร์มว่า "ไปทำบุญกับโรงพยาบาลดีกว่า ไปทำบุญกับเด็กด้อยโอกาสดีกว่า ไปทำบุญกับคนชราดีกว่า เป็นต้น"

ส่วนตัวแล้ว ผมเชื่อว่า ถ้อยคำเหล่านี้ ได้สร้างความวิตกกังวลและความไม่สบายใจต่อมุมมองในศาสนาเช่นนี้ ในหมู่พุทธศาสนิกชนส่วนมากอีกจำนวนหนึ่ง ที่เข้าใจในบริบทของศาสนาและเชื่อมั่นลึกซึ้งในหลักธรรมคำสอนแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม เราไม่อาจอธิบายหรือหาเหตุผลใดๆ มาเพื่อโน้นน้าวจิตใจของเหล่าชนนั้นๆ ให้หันมาเข้าใจและศึกษาในหลักการของพระพุทธศาสนาที่ถูกต้องและถ่องแท้ ได้ในระยะเวลาสั้นๆ ได้ 

แต่สิ่งที่เราทำได้ก็คือ พุทธบริษัททั้งหลาย ต้องยึดมั่นและตั้งมั่นอยู่บนหลักการแห่งคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างไม่หวั่นไหว

เพราะเมื่อมั่นคงในหลักการแล้ว ก็ย่อมก่อให้เกิดความเป็นปึกแผ่นและความร่วมไม้ร่วมมือกันและกันในการรักษาหวงแหนพระพุทธศาสนา ซึ่งอยู่คู่กับสังคมไทยมาตั้งแต่ครั้งบรรพกาลจนถึงปัจจุบัน  หลักการที่ว่านั้น ก็คือหลัก "โอวาทปาฎิโมกข์" ที่ถือว่าเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา ตามภาษาบาลีว่า..

            สพฺพปาปสฺส อกรณํ

            กุสลสฺสูปสมฺปทา

            สจิตฺตปริโยทปนํ

            เอตํ พุทฺธานสาสนํ "
แปลความว่า "การไม่ทำความชั่วทั้งปวง(เว้นชั่ว) การทำความดีให้พร้อม(ทำดี) การชำระจิตของตนให้บริสุทธิ์ผ่องใส(ทำใจให้ผ่องใส) นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย"

       หลักโอวาทปาฏิโมกข์นี้ ถือเป็นกุญแจดอกแรกของการไขปริศนาหลักการของพระพุทธศาสนาที่มีมาตั้งแต่ครั้งพุทธกาล ซึ่งพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงเป็นหลักการและแนวทางในการประกาศพระศาสนาให้แก่ภิกษุจำนวน ๑,๒๕๐ รูป ในวันเพ็ญเดือนมาฆะ (เดือน ๓) หลังจากตรัสรู้แล้ว ๙ เดือน ซึ่งมักจะถูกตั้งคำถามขึ้นว่า

      1. ใคร เป็นศาสดาของท่าน ? ท่านบวชเจาะจงพระศาสดารูปใด ? คำตอบคือ พระพุทธเจ้าเป็นศาสดาของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าบวชเจาะจงพระศาสดา พระองค์นั้น

      2. พระศาสดาของท่าน สอนเรื่องอะไร ? คำตอบคือ สอนให้ทำดี ละชั่ว ทำใจให้ผ่องใส 

เมื่อเราตั้งหลักใหญ่ ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของคำสอนทางพระพุทธศาสนาได้เช่นนี้แล้ว จึงควรไฝ่ใจในหลักแห่งการปฏิบัติเพื่อเข้าสู่จุดมุ่งหมายสูงสุดแห่งศาสนานั้นคือ หลักแห่งความเป็นจริงอันประเสริฐ หรือ อริยสัจ ๔ นั่นเอง ได้แก่

      1.  ทุกขอริยสัจ  ความทุกข์คือความจริงอันประเสริฐ 

      2. ทุกขสมุทยอริยสัจ คือต้นเหตุที่ก่อให้เกิดความทุกข์คือความจริงอันประเสริฐ  

      3. ทุกขนิโรธอริยสัจ คือความดับแห่งทุกข์คือความจริงอันประเสริฐ 

      4. ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ คืออริยมรรคหรือแนวทางปฏิบัติเพื่อให้ถึงความดับทุกข์คือความจริงอันประเสริฐ 

      ท่านพุทธศาสนิกชนที่เคารพรักทั้งหลายครับ เมื่อกล่าวโดยสรุปแล้วนั้น พระพุทธองค์ได้ทรงสั่งสอนให้เหล่าสาวก เห็นความทุกข์และความดับทุกข์ทั้งหลายทั้งปวง เพื่อให้หลุดพ้นวงจรแห่งการเวียนว่ายตายเกิดในสงสาร ซึ่งถือว่าเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดแห่งพระพุทธศาสนา

      แม้ในสถานการณ์ตอนนี้อาจจะมีห้วงเวลาแห่งความวิกฤติศรัทธาได้เกิดขึ้นบ้าง แต่เราก็ควรใช้สติปัญญา ไตร่ตรองและพิจารณาให้ถ่องแท้ มองให้ทะลุปรุโปร่งว่า แท้จริงแล้ว สถานการณ์นั้น ย่อมเกิดขึ้นและตั่งอยู่ เพียงชั่วขณะ และสุดท้ายก็จะต้องมีอันดับไปเป็นธรรมดาอย่างแน่นอน แต่เมื่อเรามีหลักที่มั่นคงแล้ว เราก็จักไม่หวั่นไหวในคำสั่งสอน ศรัทธาไม่คลอนแคลนต่อพระรัตนตรัย แยกแยะได้ว่า อันไหนถูก อันไหนผิด  อันไหนเป็นหลัก อันไหนเป็นส่วนประกอบ เช่นนี้แล้ว  เราจึงควรร่วมแรงร่วมใจ ในอันที่จะสนับสนุนส่งเสริม ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ให้มั่นคงสถาพรคู่กับสังคมไทยไปตราบชั่วนานเท่านานฯ 

        นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง พุทโธ เม สะระณัง วะรัง, เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง สัตถุ สาสะเน

        นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง ธัมโม เม สะระณัง วะรัง, เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง สัตถุ สาสะเน.

        นัตถิ เม สะระณัง อัญญัง สังโฆ เม สะระณัง วะรัง, เอเตนะ สัจจะวัชเชนะ วัฑเฒยยัง สัตถุ สาสะเนฯ                            

                                                                                                                                                        ศ. คำเวียง


image
image
image
 
 
 
 

Website Policy | Privacy Policy | Security Policy | Disclaimer | ข้อกำหนดการใช้ Cookies รองรับการทำงานบน Internet Explorer v.11+, Microsoft Edge, Firefox v.47.0+, Chrome v.51+

จำนวนการเข้าชม : 966,216